Sarunya Chaiduangsri
ประเทศยักษ์ใหญ่จับมือแบน Tiktok หวั่นเกิดปัญหาละเมิดความปลอดภัยข้อมูล

#SecurityUpdate | ประเทศยักษ์ใหญ่จับมือแบน Tiktok หวั่นเกิดปัญหาละเมิดความปลอดภัยข้อมูล จากสถิติล่าสุดของแอปพลิเคชัน Tiktok ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้งานทั่วโลกสูงกว่า 1 พันล้านคน ภายใน 6 ปี ถือเป็นแอปฯ ที่มีอัตราการเติบโตสูงมากที่สุดอันหนึ่งของโลก จากตัวเลขดังกล่าวไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความนิยมของแอปพลิเคชัน Tiktok ที่ผู้คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจ แต่ยังมีการศึกษาพบว่า คนส่วนหนึ่งใช้เวลากับแอปฯ นี้ถึงวันละ 95 นาที หรือว่า 23.6 ชั่วโมงต่อเดือนเลยทีเดียว
หากภายใต้การได้รับความนิยมไปทั่วโลกนี้ บางประเทศกลับมองว่า แอปฯดังกล่าวกำลังเป็นภัยคุกคามความปลอดภัยของรัฐบาล โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศแบนแอปฯ Tiktok บนโทรศัพท์มือถือที่เป็นของหน่วยงานรัฐบาล ขณะที่ล่าสุด Mona Fortier ประธานคณะกรรมการกระทรวงการคลังของแคนาดาก็ได้ออกมาประกาศว่า นายกรัฐมนตรีของแคนาดา ตัดสินใจใช้มาตรการรักษาความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ด้วยการสั่งห้ามการติดตั้งแอปฯ TikTok บนอุปกรณ์ที่เป็นของหน่วยงานรัฐบาลอย่างเป็นทางการ เนื่องจากมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือว่า แอปพลิเคชันดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัว และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ แต่ในปัจจุบันก็ยังไม่มีการค้นพบว่ามีการรั่วไหลของข้อมูลจากแอปฯ ดังกล่าวแต่อย่างใด ทว่าก็มีการคาดการณ์ว่า การออกมาประกาศอย่างเป็นทางการนี้จะทำให้ภาคเอกชน และองค์กรต่าง ๆ ในประเทศอาจหันมาพิจารณาเกี่ยวกับการแบนแอปฯ Tiktok ด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกันประเทศในสหภาพยุโรปก็เริ่มออกมาเคลื่อนไหว โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรปก็ได้ออกมาประกาศห้ามเจ้าหน้าที่ในองค์กรติดตั้งแอปพลิเคชัน Tiktok บนโทรศัพท์เป็นการชั่วคราว พร้อมให้เหตุผลคล้ายกับการตัดสินใจของสหรัฐฯ และแคนาดาที่ออกมาก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลายประเทศแสดงออกถึงความกังวลใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของแอปฯ Tiktok เพราะก่อนหน้านี้ก็มีข่าวออกมาเป็นระยะว่า รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ มีความคิดจะที่จะปิดกั้นแอปฯ ดังกล่าว เพื่อรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล เนื่องจาก Bytedance ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของแอปฯ Tiktok เป็นบริษัทสัญชาติจีน ที่มีการบริหารงานในประเทศจีนมาก่อน แม้ปัจจุบันจะย้ายมาตั้งฐานที่สิงคโปร์แล้ว แต่ก็ยังสร้างความกังวลว่ารัฐบาลจีนยังอาจใช้ผลประโยชน์จากการได้รับความนิยมของแอปดังกล่าวเพื่อเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญของประเทศอื่น ๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคงของประเทศในอนาคตได้
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าจับตามองว่า จะมีการออกมาตรการอย่างไรกับแอปฯ ดังกล่าวอีกหรือไม่ และบริษัท Bytedance จะทำอย่างไรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อคนทั่วโลกว่าแอปฯ จะมีความปลอดภัย และจะไม่มีการปล่อยให้รัฐบาลจีนเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน
ขอบคุณข้อมูลจาก