นับวัน Cybercrime หรือ อาชญากรรมไซเบอร์ จะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการสวมรอย การแฮ็กข้อมูล การฉ้อโกงทางออนไลน์ การชักจูงให้เล่นพนันออนไลน์ หรือ ภัยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ยังระบาดหนักและยากที่จะหลบเลี่ยง ดังนั้นเพื่อป้องกันการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต สิ่งสำคัญคือการรู้เท่าทันกลลวงของมิจฉาชีพ
บทความนี้ Security Pitch จะพาไปทำความเข้าใจ หนึ่งในกลลวงที่มิจฉาชีพนำมาใช้ นั่นคือการเปิด “บัญชีม้า” ที่เรียกได้ว่า อาจเป็นต้นเหตุหลักของอาชญากรรมไซเบอร์ ในไทย
บัญชีม้า คืออะไร
ข้อมูลจาก ฝ่ายกฎหมายและฝ่ายรักษาความปลอดภัย ธปท. ได้นิยาม บัญชีม้า ไว้ว่า คือ บัญชีเงินฝากธนาคารของบุคคลอื่น ซึ่งถูกคนร้ายนำมาใช้เป็นช่องทางในการรับเงินและถ่ายโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด เพื่อป้องกันไม่ให้มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงมาถึงตัวได้ โดยคนร้ายสามารถทำได้หลายวิธีเพื่อให้ได้มาซึ่งบัญชีม้า ไม่ว่าจะเป็น การโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อนำไปใช้เปิดบัญชีในชื่อของคนนั้น ๆ หรือ การจ้างให้บุคคลอื่นเปิดบัญชี หรือรับซื้อบัญชีเงินฝากธนาคารของบุคคลทั่วไป เพื่อนำไปใช้กระทำความผิด ซึ่งพบแพร่หลายในสังคมออนไลน์ที่มีการขายบัญชีเงินฝากธนาคารอย่างเปิดเผย ตั้งแต่ราคา 800 บาท จนถึง 20,000 บาท
บัญชีม้าเหล่านี้จะถูกรวบรวมเป็นแพ็กเกจพร้อมกับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและซิมโทรศัพท์ที่เจ้าของบัญชีเปิดใช้งาน เพื่อให้คนร้ายที่ซื้อบัญชีม้าไปแล้ว สามารถนำข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของบัญชีไปผูกกับ Mobile Banking เพื่อใช้ทำธุรกรรมออนไลน์ได้ทันที อธิบายง่าย ๆ บัญชีม้า ก็คือ บัญชีที่รับจ้างเปิด แล้วถูกนำไปขายต่อให้กลุ่มธุรกิจผิดกฎหมายหรือมิจฉาชีพ เพื่อนำไปใช้ทำธุรกรรมในทางทุจริต ซึ่งตัวบัญชีม้าเหล่านี้อาจจะมาจากการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อนำไปใช้เปิดบัญชี หรือจ้างให้บุคคลอื่นเปิดบัญชีก็ได้นั่นเอง
ทั้งนี้ หากจำแนกตามกลุ่มความผิดหลัก ๆ ได้แก่ ความผิดเกี่ยวกับการพนัน ฉ้อโกง ยาเสพติด และความผิดอื่น ๆ
บัญชีม้า มีกี่รูปแบบ
อย่างที่ได้อธิบายไปเบื้องต้นว่า บัญชีม้า สามารถพบได้อย่างแพร่หลาย ในสังคมออนไลน์ เราจึงสามารถระบุประเภทของบัญชีม้าได้ว่า มีอยู่ 2 แบบ คือ
🐴ม้าสมัครใจ
คือ การขายบัญชีธนาคาร หรือ e-Wallet ให้ผู้อื่น แล้วนำข้อมูลไปขายต่อให้กลุ่มมิจฉาชีพ
🐴ม้าแบบไม่ตั้งใจ / ถูกสวมรอย
คือ ถูกหลอกเอาข้อมูลไปใช้ในการเปิดบัญชีธนาคาร หรือ e-Wallet เพื่อเอาไปใช้ในการธุรกรรมที่ทุจริต ฟอกเงิน หรือก่อการร้าย
รู้ทันกลลวงมิจฉาชีพ
จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ ระบุว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์มักจะใช้กลโกงโจมตีเหยื่อด้วยวิธีการแอบอ้างเป็นหน่วยงานรัฐ หรือ หน่วยงานเอกชน โดยทำทีข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายในความผิดที่เราไม่ได้ก่อขึ้น เมื่อหลงเชื่อ ตกหลุมพราง ก็มักจะลงเอยด้วยการทำตามที่มิจฉาชีพแอบอ้าง ขณะที่บางรายถูกหลอกให้เปิดบัญชีโดยแอบอ้างว่า ไว้รับเงินเยียวยา ค่านั่นนี่ บ้างมีผลตอบแทนให้ ซึ่งก็เข้าข่ายเป็นความผิดกรณีการซื้อขายบัญชีนั่นเอง
ความผิดกรณี “บัญชีม้า”
เมื่อเจ้าหน้าที่ไล่เส้นทางการเงินไปแล้วพบว่า บัญชีที่กระทำผิดเป็นบัญชีม้า ไม่ใช่ตัวการที่แท้จริง ก็ต้องมีการสืบสวนเชื่อมโยงไปถึงเจ้าของบัญชี ซึ่งแม้จะไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการกระทำผิดในคดี แต่ก็ถือเป็นความผิดทางกฎหมาย เช่น
📣 มีความผิดฐานร่วมกันกระทำความผิด
📣 เป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด หรือเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด
📣 เข้าข่ายสนับสนุนให้เกิดการกระทำผิดฐานฉ้อโกงบุคคลอื่น
📣 เข้าข่าย พ.ร.บ. ป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
และสำหรับความผิดฐานฟอกเงิน มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000 - 200,000 บาท รวมถึงอาจโดนอายัดทรัพย์สินทั้งหมด เพื่อชดใช้ความผิดที่ได้ร่วมกระทำ
ปัจจุบันทุกภาคส่วนหันมาให้ความสนใจประเด็น บัญชีม้า กันมากขึ้น ไม่เว้นแต่ในสากล ที่มีการรณรงค์เน้นย้ำถึงภัยคุกคามนี้ เช่น INTERPOL หรือ องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ ที่มีการเปิดตัวแคมเปญ #YourAccountYourCrime ปลุกจิตสำนึกในเรื่องของความผิดฐานรับจ้างเปิดบัญชีม้า และให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการอยู่อย่างปลอดภัย ตลอดช่วง 10-26 สิงหาคม 2565 นี้
ขณะที่ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ก็ได้สร้างช่องทาง การแจ้งความเสียหายของประชาชน ผ่านเว็บไซต์ thaipoliceonline.com เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งข้อมูลแล้วจะทำการประสานกับธนาคารให้ดำเนินการอายัดเงินที่ผู้เสียหายโอนไปอย่างเร็วที่สุด เพราะยิ่งอายัดเงินได้ไวเท่าไหร่ นั่นหมายถึงโอกาสที่จะได้เงินคืน และความเสียหายที่จะไม่เพิ่มขึ้น
ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย, PCT Police, INTERPOL
#INTERPOL #บัญชีม้า #มิจฉาชีพ #Cybercrime #SecurityPitch